การจัดการความรู้

  

การจัดการความรู้ (Knowledge Management) หมายถึง การนำความรู้และกระบวนการเรียนรู้ที่มีอยู่ มาจัดทำเป็นระบบ เช่น การสร้าง รวบรวม แลกเปลี่ยนความรู้ โดยนำมาใช้ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร




  • ความรู้ (Knowledge) หมายถึง สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิด เปรียบเทียบ เชื่อมโยง กับความรู้อื่น เป็นที่มาของการเกิดความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ได้
  • สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์เพื่อนำมาเปลี่นรแปลงและใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการ และการตัดสินใจ
  • ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริง ข้อมูลดิบ หรือตัวเลขต่างๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านการแปลความหมาย


ประเภทของความรู้แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท
1.ความรู้ที่ฝั่งอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) คือ ประสบการณ์ การเรียนรู้ หรือพรสวรรค์ สามารถแบ่งปัน และพัฒนาได้
2.ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) คือ ความรู้ที่ เป็นเหตุเป็นผล สามารถถ่ายทอดออกมาในรูปแบบต่างๆได้ เช่น หนังสือ คู่มือ เอกสาร




การถ่ายเทของความรู้สามารถทำได้ตลอดเวลา เรียกว่า "วงจรความรู้" (Knowledge Spiral) , SECI Model

  • Socialization การแบ่งปัน และการสร้างความรู้ โดยการฟังจาก บุคคลสู่ บุคคล
  • Externalization การแบ่งปัน และการสร้างความรู้ โดยการแปลงความรู้ภายในตัวบุคล เป็น ความรู้ชัดแจ้ง
  • Internalization การแบ่งปัน และการสร้างความรู้ โดยการเปลี่ยนแปลงความรู้ชัดแจ้ง ให้ความรู้เข้าสู่บุคคล และนำความรู้ไปปฏิบัติ
  • Combination การแบ่งปัน และการสร้างความรู้ จากการใช้ Externalization และ Internalization



กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Processes) มี 6 ขั้นตอนดังนี้

1.การค้นหาความรู้ คือ การค้นหาว่าองค์กรมีความรู้อะไรบ้าง ความรู้รูปแบบใดบ้าง และอยู่ที่ใคร ความรู้อะไรที่องค์กรจำเป็นต้องมี โดยการจัดทำแผนความรู้ และนำมาจัดลำดับความสำคัญ จะช่วยให้เห็นภาพความรู้รวมขององค์กร

2.การสร้าง และแสวงหาความรู้ คือ การดึงความรู้จากแหล่งต่างๆในองค์กรและภายนอกองค์กรที่กระจายอยู่ นำมารวมไว้ จัดทำเนื้อหาตรงตามความต้องการของผู้ใช้ โดยมีปัจจัยสำคัญคือ บรรยากาศภายในองค์กร และวัฒนธรรมขององค์กรที่เอื้อต่อการจัดการความรู้

3.การจัดความรู้เป็นระบบ คือ การจัดทำสารบัญ จัดเก็บแบ่งประเภท เพื่อการเรียกใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว เช่น แบ่งตามเนื้อหา หัวข้อ หน้าที่ ตำแหน่ง

4.การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือ การทำให้ความรู้อยู่ในรูปแบบ ภาษาที่เข้าใจง่าย เช่น การใช้ภาษาเดียวกัน การเรียบเรียง รวมถึงความสอดคล้องของการจัดเก็บข้อมูล

5.การเข้าถึงความรู้ มี 2 ประเภท คือ 1.การป้อนความรู้ คือ การส่งข้อมูลโดยผู้รับไม่ได้ร้องขอ 2.การดึงข้อมูล คือ ให้ผู้รับเลือกความรู้ที่ต้องการเอง หรือ เลือกใช้เฉพาะข้อมูลที่ต้องการ จัด และ

6.การแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้ มี 2 แบบ คือ 1.การนำความรู้แบบชัดแจ้งมาจัดทำเป็นเอกสาร หรือ สื่อต่างๆ พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนและ จัดทำฐานความรู้ วิธีใช้ 2.การนำมาความรู้แบบฝั่งลึกมาแลกเปลี่ยนได้โดย การทำกิจกรรมร่วมกัน หรือ อื่นๆ ขึ้นิยู่กับวัฒนธรรมขององค์กร


ปัจจัยที่เอื้อต่อการจัดการความรู้

1.ภาวะผู้นำและกลยุทธ์ คือการที่ผู้บริหารเข้าใจแนวคิด ตระหนักถึงประโยชน์ ของการจัดการความรู้ และสามารถสื่อสารกับบุคคลากรในองค์กรให้มีแรงผลักดันเกิดขึ้นได้



2.วัฒนธรรมองค์กร คือการที่องค์กรมีวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนความรู้ และ มีการแบ่งปันความรู้ระหว่างบุคคลเกิดขึ้นภายในองค์กร 
3.เทคโนโลยีและสารสนเทศในการจัดการความรู้ อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต ระบบฐานข้อมูล ที่ทันสมัย 

4.การวัดผลความคืบหน้า ได้ผลตามที่คาดหวัง หรือไม่ การที่องค์กร ทบทวน ประเมิน ปรับปรุงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการจัดการความรู้ได้ 
5.โครงสร้างพื้นฐาน สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ และ โครงสร้างองค์กร



การกำหนดกรอบแนวคิดการจัดการความรู้,อบเขตการจัดการความรู้,เป้าหมายการจัดการความรู้
          การนำทฤษฏี หรือ กรอบแนวคิดไปประยุกต์ใช้กับองค์กรจำเป็นที่จะต้องดูความเหมาะสมของลักษณะเฉพาะขององค์กร ประเมินความเหมาะสม เพราะแต่ละกรอบแนวคิดมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ตัวอย่าง กรอบแนวคิด Perscriptive,Descriptive,แบบผสมผสาน อีกทั้งการกำหนดขอบเขตของการจัดการความรู้นั้นส่วนมากจะกำหนดตามกระบวนงาน กำหนดตามความรู้ที่จำเป็น ให้สนับสนุน สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทศาสตร์ โดยเน้นปัญหาที่ประสบอยู่เป็นสำคัญ ตามความเหมาะสมของลักษณะเฉพาะขององค์ รวมถึงการตั้งเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม



กรณีศึกษา : โรงพยาบาลศิริราช ใช้ระบบ CQI เน้น Best Practice กำหนดเป้าหมายการจัดการความรู้ให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจ

1.การจัดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดย เริ่มวิเคราะห์จากพฤติกรรมองค์กร เปรียบเทียบกับวัฒนธรรมการจัดการความรู้
2.การสื่อสาร โดย คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ เนื้อหา,กลุ่มเป้าหมาย,ช่องทาง อีกทั้งจำเป็นจะต้องวัดผลประสิทธิภาพของการสื่อสาร โดย แผนการสื่อสารของโรงพยาบาลศิริราช คือ มีการสื่อสารเรื่องการ จัดการความรู้ในองค์กรทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง           
3.กระบวนการและเครื่องมือ ช่วยให้การจัดการความรู้เกิดขึ้นในองค์กรได้เร็วยิ่งขึ้น เช่น (CoP : Community of Practice) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ , การสับเปลี่ยนงาน , การยืมตัวบุคลากรมาช่วยงาน , เวทีแลกเปลี่ยนความรู้
4.การฝึกอบรมการเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อม ของบุคลากร สร้างความเข้าใจ ตระหนักถึง การจัดการความรู้ จัดทำองค์ความรู้ เชื่อมโยง กับการฝึกอบรมที่มีอยู่ รวมถึงการเอื้อให้เกิดบรรยากาศ การศึกษาหาความรู้ และ การจัดการความรู้ด้วยตนเอง เช่น การทำ KM Website , วารสาร
5.การวัดผล คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทราบถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผลประโยชน์ และได้ทบทวน แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ
6.การยกย่อง ชมเชย และ การให้รางวัล เป็นการจูงใจในการแลกเปลี่ยนความรู้ ปรับพฤติกรรมบุคคล และ องค์กรมีได้ทั้ง ผลตอบแทน และ เกียรติยศ


อ้างอิง

สำนักงานคณะกรรมการระบบข้าราชการ (กพร.) : http://www.opdcacademy.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น